ในการประชุม ASCO ประจำปี 2018 ผลการศึกษาเกี่ยวกับเคมีบำบัดได้รับความสนใจอย่างมาก การศึกษาพบว่านวัตกรรมเคมีบำบัดสามารถรักษามะเร็งตับอ่อนที่เรียกว่า “ราชาแห่งมะเร็ง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับมะเร็งชนิดนี้ที่มีการพยากรณ์โรคไม่ดีนัก การให้เคมีบำบัดนี้สามารถยืดอายุผู้ป่วยได้นานถึง 20 เดือนเลยทีเดียว!
ในการทดลองทางคลินิกที่ชื่อว่า PRODIGE 24 / CCTG PA.6 นักวิจัยได้คัดเลือกผู้ป่วยจำนวนมากที่เป็นมะเร็งท่อตับอ่อนชนิดไม่แพร่กระจาย (PDAC) ซึ่งเป็นมะเร็งตับอ่อนที่พบบ่อยที่สุด โดยคิดเป็น 90% ของกรณีทั้งหมด % ผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ในช่วง 3-12 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยทั้งหมด 493 คนถูกสุ่มแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับการรักษาด้วยเจมซิตาไบน์ (gemcitabine) และอีกกลุ่มหนึ่งได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด mFOLFIRINOX ใหม่ (modified FOLFIRINOX) ตัวหลังประกอบด้วยส่วนประกอบของเคมีบำบัดที่แตกต่างกัน 5 ชนิด ได้แก่ oxaliplatin, leucovorin, irinotecan และ XNUMX-fluorouracil
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าด้วยการติดตามผลเฉลี่ย 33.6 เดือนอัตราการรอดชีวิตโดยปราศจากโรคของผู้ป่วยในกลุ่ม mFOLFIRINOX สูงกว่ากลุ่ม gemcitabine อย่างมีนัยสำคัญ (21.6 เดือน -12.8 เดือน) ในแง่ของค่ามัธยฐานการอยู่รอดโดยรวมอดีตจะสูงกว่า 20 เดือนก่อนหน้า (54.4 เดือน -35.0 เดือน) ผลข้างเคียงของเคมีบำบัดยังสามารถควบคุมได้ด้วยประโยชน์เพิ่มเติมในการอยู่รอด
ตามแผนนักวิจัยจะยังคงสำรวจเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดเพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ป่วยสามารถรับเคมีบำบัดก่อนการผ่าตัดเพื่อลดขนาดเนื้องอกได้หรือไม่ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในเนื้องอกและเพิ่มความน่าจะเป็นที่เนื้องอกจะถูกกำจัดออกอย่างสมบูรณ์โดย ศัลยกรรม. เราหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบำบัดนี้และให้ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับอ่อนได้เห็นความหวัง