2022 สิงหาคม: สำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งปอดระยะแพร่กระจายที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก (NSCLC) ซึ่งเนื้องอกมีการกลายพันธุ์ซึ่งส่งผลให้มีเซนไคม์-เยื่อบุผิว (MET) ข้ามไป 14 ครั้ง ตามที่ตรวจพบโดยการทดสอบที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การอนุมัติเป็นประจำกับ capmatinib (Tabrecta, Novartis Pharmaceuticals Corp.)
ตามอัตราการตอบสนองโดยรวมเริ่มต้นและระยะเวลาของการตอบสนองในการทดลอง GEOMETRY mono-1 (NCT02414139) ซึ่งเป็นการวิจัยแบบหลายกลุ่ม แบบหลายศูนย์ แบบไม่สุ่มตัวอย่าง แบบเปิด และแบบหลายกลุ่ม ก่อนหน้านี้ capmatinib ได้รับการอนุมัติเร่งด่วนสำหรับข้อบ่งชี้เดียวกันในเดือนพฤษภาคม 6, 2020. จากข้อมูลจากผู้ป่วยเพิ่มเติม 63 รายและการติดตามผลเพิ่มเติม 22 เดือนเพื่อประเมินความทนทานของการตอบสนองและยืนยันผลประโยชน์ในการรักษา การแปลงเป็นการอนุมัติตามปกติ
ผู้ป่วย 160 รายที่มี NSCLC ขั้นสูงที่มีการกลายพันธุ์ข้าม exon 14 ของ MET แสดงประสิทธิภาพ ผู้ป่วยได้รับ capmatinib 400 มก. วันละสองครั้งจนกว่าโรคจะลุกลามหรือผลข้างเคียงไม่สามารถทนได้
คณะกรรมการตรวจสอบอิสระที่ตาบอดได้กำหนด ORR และระยะเวลาของการตอบสนอง (DOR) เป็นมาตรการหลักด้านประสิทธิภาพ (BIRC) 60 คนที่ไม่เคยได้รับการรักษามี ORR 68% (95% CI: 55, 80) และ DOR 16.6 เดือน (95% CI: 8.4, 22.1) ORR เท่ากับ 44% (95% CI: 34, 54) ในผู้ป่วย 100 รายที่ได้รับการรักษาก่อนหน้านี้ และ DOR เท่ากับ 9.7 เดือน (95% CI: 5.6, 13)
อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยคือ 71 ปี (48 ถึง 90) มีการรายงานข้อมูลประชากรเฉพาะต่อไปนี้: หญิง 61%, 77% คนขาว, 61% ไม่เคยสูบบุหรี่, 83% มี มะเร็งของต่อม, and 16% had metastases to the central nervous system. 81% of patients who had previously had treatment had only gotten one line of systemic therapy; 16% had received two; and 3% had received three. 86% of patients who had previously had treatment had platinum-based chemotherapy.
ผู้ป่วยมีอาการบวมน้ำ คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก เหนื่อยล้า อาเจียน หายใจลำบาก ไอ และความอยากอาหารลดลงบ่อยที่สุด (20%)
Capmatinib ควรรับประทานวันละสองครั้งในขนาด 400 มก. โดยมีหรือไม่มีอาหาร
ดูข้อมูลการสั่งจ่ายยา Tabrecta แบบเต็ม